มาตรฐานสำคัญที่พาเลทไม้ควรมี

1. มาตรฐาน IPPC (ISPM 15)

• มาตรฐานนี้กำหนดให้พาเลทไม้ที่ใช้ในการส่งออกต้องผ่านกระบวนการอบความร้อน (Heat Treatment - HT) หรือรมยาเพื่อป้องกันศัตรูพืช
• การปฏิบัติตาม ISPM 15 ช่วยให้พาเลทไม้สามารถส่งออกได้อย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมายระหว่างประเทศ

2. การรับรอง ISOการรับรองมาตรฐาน ISO 9001

• ด้านการควบคุมคุณภาพช่วยยืนยันว่าพาเลทไม้มีคุณภาพที่สม่ำเสมอและเป็นไปตามมาตรฐานสากล
  
• นอกจากนี้ ISO ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในการทำธุรกิจในระดับสากล
  

ประโยชน์ของการใช้พาเลทไม้

✅ คุ้มค่าและประหยัดต้นทุน
พาเลทไม้มีต้นทุนต่ำกว่าพาเลทประเภทอื่นๆ เช่น พลาสติกหรือโลหะ แต่ยังคงความแข็งแรงและทนทาน
✅ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
พาเลทไม้สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ (Reusable) และเมื่อหมดอายุการใช้งานก็สามารถรีไซเคิลหรือนำไปใช้ประโยชน์อื่นได้ (Recyclable)
✅ รองรับน้ำหนักได้ดี
ด้วยโครงสร้างที่แข็งแรง พาเลทไม้สามารถรองรับน้ำหนักได้มาก เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักมาก
✅ ปรับแต่งได้ตามความต้องการ
สามารถออกแบบขนาดและรูปแบบของพาเลทไม้ให้เหมาะสมกับประเภทของสินค้าที่ต้องการขนส่งได้

ประเภทของพาเลทไม้

1. พาเลทไม้สน (Pine Wood Pallet)

• จุดเด่น: น้ำหนักเบา มีความสวยงาม และไม่มีแมลงศัตรูพืช เมื่อเก็บไว้ในสิ่งแวดล้อมปกติ
• เหมาะสำหรับ: การขนส่งสินค้าทั่วไปและการส่งออก
• ข้อดี: เมื่อต้องการพาเลทขนาดใหญ่และยาว สามารถทำราคาได้ดี เพราะไม้สนมียาวถึง 6 เมตร และรับน้ำหนักได้ดี 
• ข้อเสีย: หากดูแลรักษาไม่เหมาะสม อาจบิดงอหรือแตกหักได้

2. พาเลทไม้อัด (Plywood Pallet)

• จุดเด่น: ผิวเรียบ มีความแข็งแรงรับน้ำหนักได้ดี เนื่องจากประกอบด้วยหลายชั้นของวีเนียร์ไม้ที่ถูกอัดเข้าด้วยกัน และไม่มีแมลงศัตรูพืช เมื่อเก็บไว้ในสิ่งแวดล้อมปกติ
• เหมาะสำหรับ: ขนส่งสินค้าน้ำหนักเบาถึงปานกลาง เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
• ข้อดี: ลดปัญหาการเกิดเสี้ยนไม้และบาดเจ็บขณะใช้งาน อีกทั้งไม่บิดงอง่าย
• ข้อเสีย : หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม อาจเสื่อมสภาพเร็ว

3. พาเลทไม้แข็ง (Hardwood Pallet)

• จุดเด่น: รับน้ำหนักได้มาก ทนต่อแรงกระแทก
• เหมาะสำหรับ: สินค้าอุตสาหกรรมหนักและเครื่องจักร
• ข้อดี: มีอายุการใช้งานยาวนาน แม้ในสภาพการใช้งานหนัก
• ข้อเสีย : มีน้ำหนัักมาก อาจส่งผลต่อต้นทุนการขนส่ง

ข้อเสนอแนะ ผู้ใช้งาน สำหรับเลือกใช้งาน 

ไม้เนื้อแข็ง : ใช้งานที่ต้องการความแข็งแรงสูง เช่นการขนส่งสินค้าน้ำหนักมากหรือใช้งานระยะยาว (พาเลทหมุนเวียน)

ไม้อัด : ใช้สำหรับขนส่งสินค้าน้ำหนักเบาถึงปานกลาง 

ไม้สน : เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าน้ำหนักเบา การใช้งานครั้งเดียว